พัดลมโรงงาน

          พัดลมโรงงานคือ พัดลมที่มีขนาดใหญ่ สามารถกระจายพลังลมได้ทั่วถึง  เย็นแรงทั่วถึง มีให้เลือกหลายแบบทั้งแบบตั้งพื้น แบบปรับระดับ แบบตั้งพื้น (ทรงสูง)  และ แบบติดผนัง สามารถตอบรับทุกการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ประเภทของพัดลมโรงงาน

     -พัดลม โรงงาน  แบบใบพัดแดง มีให้เลือกใช้หลายหลายขนาดหลายแบบทั้งแบบที่เป็นพัดลมแบบมีขาตั้งและไม่มีขาตั้ง
     -พัดลมโรงงาน แบบใบฟ้าสามขา สามารถหมุนได้ ปรับความเร็วรอบได้
     -พัดลมสกายลูป DP สำหรับงานแสดง งานอีเว้นท์ เพิ่มจุดสนใจ ให้เป็นจุดสนใจ
     -พัดลมระบายอากาศ  สำหรับโรงงาน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ สำหรับเป็น พัดลมระบายความร้อน ให้กับสัตว์ หรือว่าคน จะใช้ร่วมกับหัวพ่นหมอก และไอน้ำ หรือไม่ก็ได้
     -พัดลมระบายอากาส สำหรับการทำงานในที่อับลม ช่วยเพิ่มอากาศให้หมุนเวียนภายใน
     -พัดลมระบายอากาศ  สำหรับหลังคาโรงงาน โรงเรือน
     -พัดลมโรงงานแบบติดผนัง

          พัดลมโรงงานมีหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็จะใช้มอร์เตอร์ต่างกัน ดังนั้นหากต้องการมอร์เตอร์ที่มีความแรงสูงต้องเลือกให้ดีและศึกษาอย่างชัดเจนว่าพัดลมโรงงานรุ่นไหนใช้มอร์เตอร์ขนาดไหน

ข้อดีของพัดลมโรงงาน

     -พัดลมโรงงานมีตัวถังหนา แข็งแรงทนทาน และมีระบบป้องกันมอเตอร์ไหม้
     -พัดลมโรงงานสามารถถ่ายเทความร้อน แก๊สพิษ ไอระเหย ได้ดี และยังสามารถขจัดกลิ่น เขม่าควัน  ฝุ่นละอองได้ดีอีกด้วย
     -พัดลมโรงงานมีระบบกันสะเทือน เพื่อลดเสียงรบกวนภายในโรงงาน
     -พัดลมโรงงานบางรุ่นมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย สามารถใช้งานกับพื้นที่แคบๆได้ไม่เปลืองพื้นที่
     -พัดลมโรงงานสามารถสร้างอากาศหมุนเวียน และจ่ายออกซิเจนในพื้นที่จำกัดอีกทั้งยังลดความร้อนแก่ชิ้นงานในการผลิตของโรงงานนั้นๆอีกด้วย
     -พัดลมโรงงานมีลมแรง อัดลมได้ตามต้องการ เช่นงานขุดท่อใต้ดิน ลดความร้อนในโรงงาน  โกดังเก็บสินค้า และยังส่งลมได้อย่างทั่วถึงเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกและทำให้อากาศเย็น
     -พัดลมโรงงานยังสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 70 องศาฯ และไม่ติดไฟง่าย

ระบบระบายอากาศ โรงงานทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ระบบระบายอากาศ โรงงาน 

ในปัจจุบันระบบโรงงานถือว่าเป็นอุตสาหกรรมหลักที่เสริมสร้างให้เศรษฐกิจของไทยมีกำลังมากขึ้น และทำให้ประเทศไทยมีการขยายตัวด้านทรัพยากรแรงงานตามมาด้วยเพราะไทยสามารถผลิตสินค้าส่งออกได้มากและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ไม่ว่าจะไปเป็นพื้นที่ใดของประเทศก็จะมีโรงงานอุตสาหกรรม

ความเป็นอยู่ของทรัพยากรแรงงานในโรงงานแต่ละพื้นที่ค่อนข้างจะแออัดเพราะในแต่ละโรงงานมีจำนวนแรงงานไม่น้อยกว่า 500 คนเป็นอย่างต่ำ สิ่งที่จะช่วยให้สภาพแวดล้อมของโรงงานดีขึ้นนายจ้างต้องคำนึงถึงระบบระบายอากาศของโรงงานว่าควรติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ในโรงงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานไม่มากก็น้อย

โรงงานควรต้องควบคุมอัตราการเกิดโรคที่จะแฝงมากกับสังคมคนหมู่มาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ไวรัสตับอักเสบ หรือแม้กระทั่งมลภาวะเป็นพิษ จึงมีระบบระบายอากาศโรงงานเพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตในโรงงานซึ่งต้องมีกลยุทธ์ มาตรการ วิธีควบคุม ป้องกันที่ถูกต้องและเหมาะสม สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการควบคุมที่แหล่งกำเนิดมลพิษ ที่ทางผ่านของมลพิษ หรือที่บุคคลต้องสัมผัส

ระบบระบายอากาศ ก็มีทั้งแบบการระบายอากาศแบบธรรมชาติ เป็นที่นิยมและใช้กันมาก โดยอาศัยความดันที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ ทิศทางการไหลของอากาศ แรงยกตัวของอากาศ อุณหภูมิที่แตกต่างกัน เป็นตัวกำหนด โดยทั่วไปแล้วการระบายอากาศเพื่อควบคุมอุณหภูมิและกลิ่นในอาคารหรือโรงงาน ข้อมูลที่ใช้ในการออกแบบจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์

การระบายอากาศแบบทำให้เจือจาง เป็นการระบายอากาศเพื่อลดความเข้มข้นของมลพิษ ซึ่งปนเปื้อนอยู่ภายในสถานประกอบการ ด้วยอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก

การระบายอากาศเฉพาะที่ เป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด เป็นการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่แหล่งกำเนิดโดยตรง

                จะเห็นได้ว่าระบบอุตสาหกรรมใหญ่ๆ จะต้องมีการติดตั้งระบบระบายอากาศโรงงานให้มีความถูกต้อง เหมาะสมไม่ว่าจะเป็น พัดลม เครื่องปรับอากาศ ท่อส่งลม พัดลมท่อขจัดกลิ่น พัดลมท่อเขม่าควัน พัดลมท่อดูดฝุ่นละออง สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงอุปกรณ์เบื้องต้นที่ช่วยสกัดกั้นของเสียหรือสิ่งที่ไม่ดีเข้าสู่ร่างกายคนงานเท่านั้น กลุ่มแรงงานที่ทำงานในโรงงานเองก็ต้องมีส่วนช่วยรักษาระบบ สภาพแวดล้อม มลพิษ มลภาวะ ให้เป็นปกติสุข เพราะชีวิตการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมในปัจจุบันมีความเสี่ยงมาก ด้วยระบบเครื่องจักร การควบคุมดูแลต่างๆ อาจยังไม่ทั่วถึง ส่วนหนึ่งจึงต้องเป็นหน้าที่ของคนในโรงงานเองที่จะต้องดูแล เพราะต้องใช้ชีวิตทั้งวัน บางคนอาจจะทั้งคืนในการอาศัยอยู่ในโรงงานที่มีความเสี่ยงแบบนั้น เรียกได้ว่าเสมือนบ้านหลังที่สองหรืออาจเป็นหลังที่สามของคนใช้แรงงานหลายคนที่ต้องเข้ามาทำงานในแหล่งอุตสาหกรรมก็เป็นได้ 

พัดลมโบลเวอร์ เลือกอย่างไร

          พัดลมโบลเวอร์ หรือ เครื่องเป่าลม (Blower) คือ อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของอากาศด้วยความเร็วและทิศทางที่ต้องการ จริงๆ แล้วพัดลม และ เครื่องเป่าลม จะคล้ายคลึงกันมาก มีเพียงข้อแตกต่างเล็กน้อยคือพัดลมที่มีแรงดันลมต่ำกว่า 1,000 มิลลิเมตรน้ำ เรียกว่า พัดลม ในขณะที่พัดลมที่มีแรงดันลมตั้งแต่ 1,000 มิลลิเมตรน้ำ แต่ไม่ถึง 10 เมตรน้ำ จะเรียกว่า เครื่องเป่าลม (Blower)
พัดลมโบลเวอร์มี 2ประเภท ดังนี้

1. พัดลมโบลเวอร์แบบหอยโข่ง หลักการทำงานของพัดลมโบลเวอร์แบบหอยโข่งคือ การดึงอากาศเข้าทางด้านข้างและเหวี่ยงออกในแนวรัศมี ส่งผลให้อากาศมีความเร็วสูงขึ้น แล้วบังคับให้อากาศผ่านหน้าตัดที่ขยายขึ้นในลักษณะก้นหอย พัดลมโบลเวอร์แบบหอยโข่งมีเสียงที่ค่อนข้างเงียบ ทำให้ไม่เกิดความรำคาญแก่ผู้ใช้
2. พัดลมโบลเวอร์แบบอากาศไหลตามแนวแกน หลักการทำงานของพัดลมโบลเวอร์แบบอากาศไหลตามแนวแกนคือ ดูดลมเข้าทางด้านหลังใบพัด และส่งลมผ่านใบพัดออกไปตามแนวแกน แต่พัดลมชนิดนี้ไม่ค่อยนิยมนำมาใช้ในอุปกรณ์ของระบบเครื่องปรับอากาศ เพราะมีเสียงดังและมีประสิทธิภาพในการใช้งานต่ำ ด้วยเสียงที่ดังและประสิทธิภาพในการทำงานค่อนข้างต่ำผู้คนจึงเลือกซื้อพัดลมโบลเวอร์แบบหอยโข่งมากกว่าพัดลมโบลเวอร์แบบอากาศไหลตามแนวแกน

          ข้อแนะนำและคุณสมบัติที่ดีของพัดลมโบลเวอร์ที่ควรเลือกซื้อ
- พัดลมโบลเวอร์ต้องใช้มอเตอร์ระบบคอนเดนเซอร์รันนิ่ง เพื่อความเงียบและพัดลมโบลเวอร์ต้องมีความทนทานและประหยัดไฟ
- พัดลมโบลเวอร์ควรใชักับงานให้ความเย็น การกำจัดควันในภัตตาคาร บ้าน  งานระบายอากาศถ่ายเทในห้องแล็ป
- พัดลมโบลเวอร์ควรนำมาใช้กับงานดูดระบายกลิ่น ไอน้ำ สารเคมีที่มีความเข็มข้นไม่มากนัก หากต้องการนำมาใช้ดูดลำเลียงที่มีฝุ่นผงขนาดใหญ่ ขนส่งลำเลียงเมล็ดพืช แกลบ แป้งควรใช้พัดลมโบลเวอร์แรงดันสูง
- ใบพัดและตัวเสื้อของพัดลมโบลเวอร์ควรทำจากเหล็กเหนียวอบสีฝุ่นป้องกันการเกิดสนิม
- พัดลมโบลเวอร์ต้องสามารถปรับหมุนทิศทางออกของปากด้านจ่ายของโบลเวอร์ได้ง่ายเพื่อผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง

พัดลมโรงงาน ช่วยให้การระบายอากาศดี

          ความหมายของการระบายอากาศ การระบายอากาศหมายถึงการนำอากาศร้อนหรืออากาศที่มีสารปนเปื้อน ออกจากสิ่งแวดล้อมการทำงานในที่ทำงาน โรงงาน หรือแม้แต่ในบ้านหรือที่พักอาศัยเองก็ต้องมีการระบายอากาศที่ดี แต่ในที่นี่เราจะมาพูดถึงการระบายอากาศที่ดีของโรงงาน
เมื่อนำอากาศร้อนออกไปแล้วก็นำอากาศที่เย็นกว่าหรือสะอาดกว่าเข้ามาแทนที่เพื่อความรู้สึกสบาย และความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้น
การระบายอากาศที่ดีของโรงงานมีความจำเป็นอย่างมากในโรงงานอุตสาหกรรมเพราะในโรงงานนั้นมีสารปนเปื้อนมากมาย  และมีการผลิตความร้อนค่อนข้างสูง หากไม่ระบายอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับคนงานหรือตัวโรงงานเองได้ เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาโรงงานควรจะมีการระบายอากาศที่ดีดังนี้
1. แยกส่วนโรงงานและส่วนสำนักงานออกจากกันเพราในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมมีความร้อนค่อนข้างสูงและมีสารปนเปื้อนอยู่มาก
2. ติดตั้งระบบระบายอากาศ เพื่อการระบายอากาศที่ดีของโรงงาน
ชนิดของสารปนเปื้อนในโรงงานอุตสาหกรรม
1. ความร้อน  แหล่งความร้อนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความร้อนออกจากร่างกายของพนักงานและเกิดจากความร้อนของสิ่งแวดล้อม ที่สามารถถ่ายเทไปสู่พนักงานได้ เช่น การนั่งเก้าอี้อุ่นๆเกิดการสัมผัสโดยงตรงพนักงาน  ฯลฯ  นอกจากนั้นก็เกิดจากกระบวนกระผลิตของเครื่องจักร
2. สารที่เป็นพิษ
สารปนเปื้อนมีหลายรูปแบบ
1. ของแข็ง  เช่น ฝุ่น ควัน
2. ก๊าซต่างๆ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์  กำมะถันออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ และไฮโดรคาร์บอน  ก๊าซเหล่านี้มีคุณสมบัติเป็นก๊าซที่เพิ่มสิ่งสกปรกให้อากาศอยู่แล้ว จึงถือเป็นก๊าซที่อันตรายพอสมควร
3. ไอน้ำ
4. ของเหลว
การระบายอากาศที่ดีของโรงงานอุตสาหกรรม เป็นวิธีป้องกันมิให้พนักงานหรือสิ่งมีชีวิตได้รับอันตรายจาก สารมลพิษอากาศในอากาศ โดยระบายอากาศที่ปนเปื้อนออกจากพื้นที่ทำงานและนำอากาศ ที่สะอาดเข้ามาทดแทน  การระบายอากาศถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะป้องก้นอันตรายเท่านั้น  สามารถใช้วิธีอื่นแทนได้ เช่นการลดหรือเลิกใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย หรือการเปลี่ยนกระบวนการผลิต

ข้อดีของการระบายอากาศ
- ค่าใช้จ่ายในลงทุนต่ำ
-สามารถจับมลพิษออกไปได้เป็นอย่างดี
- ดูแลรักษาง่าย
- ใช้ได้กับมลพิษที่เป็นอันตรายมากๆ
- ใช้ได้ผลกับการควบคุมไอระเหยที่ไวไฟ
- ต้องการอากาศทดแทนไม่มาก เพราะปริมาณอากาศที่ดูดออกมีน้อยและใช้พลังงานน้อยเพราะมีอากาศ ทดแทนน้อยกว่า
- ใช้ได้กับกรณีที่มลพิษอยู่กระจัดกระจายหรือเคลื่อนที่ได้